สำนักงานพัฒนาพิงคนคร เผยผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พร้อมพัฒนาสู่การแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างความเจริญให้กับเศรษฐกิจและชุมชน

สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) จัดแถลงข่าวเผยแพร่ผลการดำเนินงานและเผยผลกำไรที่เติบโตขึ้นทุกปี  ตั้งเป้าเลี้ยงตัวเองให้ได้ พร้อมพัฒนาสู่การแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างความเจริญให้กับเศรษฐกิจและชุมชน ทั้งท้องถิ่นและประเทศ

นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลการดำเนินงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่าและธรรมชาติของจังหวัดเชียงใหม่ เผยตัวเลขรายได้ในปี 2562 จำนวน 252 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2561 ที่มีรายได้ 246 ล้านบาท  โดยมีรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ที่เติบโตขึ้นทุกปี โดยปี 2561 มีตัวเลข EBITDA จำนวน 34 ล้านบาท ปี 2562 จำนวน 40 ล้านบาท  และคาดว่าในปี 2563 จะมีตัวเลขรายได้เติบโตจากปีที่ผ่านมา 6% คิดเป็นรายได้ 267 ล้านบาท

นับจากปี 2561 จากการเข้ามากำกับดูแลเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีของคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร    โดยมีนางกอบกาญจน์  วัฒนวรางกูร ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร ส่งผลให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีรายได้ทะลุ 200 ล้าน ในปี 2561 เป็นปีแรก และเพิ่มขึ้นตามลำดับ  ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่มีประมาณ 200 ล้านบาท และจากการวิเคราะห์ตัวเลขผลการดำเนินงานที่ผ่านมา มองว่าภาพรวมของธุรกิจเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีสามารถเลี้ยงตัวเองได้ แม้จะถูกตัดทอนงบประมาณตั้งแต่ปี 2561 ที่ได้รับงบประมาณลดลงเรื่อยๆ โดยปี 2561 ได้รับงบประมาณ 150ล้านบาท ปี 2562 ได้รับงบประมาณ 115 ล้านบาท และปี 2563 ไม่ได้รับงบประมาณ ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องดูแลเลี้ยงตัวเองให้ได้

ในช่วงที่ผ่านมา หลังจาก ครม. มีมติให้ถ่ายโอนเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปให้องค์การสวนสัตว์ มี พ.ร.บ.ให้ยุบเลิกสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2562 เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะต้องดำเนินภารกิจถ่ายโอน  ในสภาพที่ดีที่สุด  ที่ผู้รับโอนสามารถนำไปดำเนินการสร้างความเจริญให้ท้องถิ่น ของจังหวัดเชียงใหม่ และของประเทศ ในด้านการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศ  ซึ่งปี 2562 สิ่งที่ได้ทำคือรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีที่สุดและยั่งยืน การดูแลสุขภาพและสวัสดิภาพของสัตว์ให้ได้มาตรฐานสากล เป็นเป้าหมายอันดับแรก พร้อมด้วยการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างความเจริญให้กับเศรษฐกิจของประเทศและชุมชนให้ได้

ในปี 2563 นี้  จะเริ่มจากการปรับปรุงภูมิทัศน์  ซึ่งยังไม่เคยมีการปรับปรุงนับจากเปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลา 14 ปี  รวมทั้งการปรับปรุงการให้บริการต่างๆ และการแสดงน้ำพุดนตรี ที่จะเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ ให้สวยงามและยิ่งใหญ่กว่าเดิม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในวาระครบรอบ 15 ปี เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งจะครบรอบในปี 2564 นี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น