ททท.นำผู้ประกอบการท่องเที่ยว และสื่อมวลชน สำรวจและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์และพิจิตร

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครสวรรค์ ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่การท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และสื่อมวลชนจากจังหวัดเชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร ร่วมสำรวจ และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อเป็นการแนะนำชักชวนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์และพิจิตรเพิ่มมากขึ้น

 

สำหรับกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7 – 9 กรกฎาคม 2560 ในโครงการ Agents Media Fam Trip จังหวัดพิจิตร นครสวรรค์ โดยได้เดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆ ได้แก่ จังหวัดพิจิตร ชมวัดศรีศรัทธาราม หรือวัดโบสถ์จระเข้ อำเภอสามง่าม วัดท่าหลวง วัดสำคัญของจังหวัดพิจิตร ที่ประดิษฐาน หลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปปางมารวิชัยสมัยเชียงแสน คู่บ้านคู่เมืองพิจิตร บึงสีไฟ บึงน้ำขนาดใหญ่กลางเมืองพิจิตร ชมศาลหลักเมือง และชมอุทยานเมืองเก่าพิจิตร ภายในเมืองโบราณประกอบไปด้วย กำแพงเมือง คูเมือง เจดีย์เก่า พร้อมสวนรุกขชาติกาญจนกุมาร ปิดท้ายด้วยการสักการะวัดโพธิ์ประทับช้าง วัดโบราณเก่าแก่อายุกว่า 600 ปี และศาลเจ้าพ่อเสือ ผู้สร้างวัด อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร

 

ในส่วนของจังหวัดนครสวรรค์ คณะได้เข้าสักการะวัดเกยไชยเหนือ ต.เกยไชย อ.ชุมแสง บริเวณด้านหน้าวัดจะเป็นจุดบรรจบกันของแม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ก่อนที่จะไหลไปรวมกับแม่น้ำปิงที่ปากน้ำโพ บริเวณนี้ยังเป็นจุดกำเนิดของตำนาน “ไอ้ด่างเกยไชย” จระเข้ยักษ์ดุร้ายที่ออกทำร้ายชาวบ้าน จนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง

          นอกจากนี้ บริเวณตำบลเกยไชย ยังเป็นแหล่งปลูกต้นตาลที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดนครสวรรค์ มีการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์น้ำตาลจากงวงตาล และน้ำตาลสดเกยไชย ให้ชมและเลือกซื้ออีกด้วย

          และในโอกาสนี้คณะได้ร่วมงานประเพณีตักบาตรเทียนโพธิ์มหามงคลเมืองบนทวารวดีแห่งเดียวในประเทศ ณ โบราณสถานเมืองบนโคกไม้เดน อ.พยุหคีรี ซึ่งมีพระสงฆ์จำนวน 89 รูปเดินถือบาตรรับเทียนจากชาวบ้านที่ยืนเรียงแถวมาใส่บาตรกันอย่างคับคั่ง จุดเริ่มแถวจากตีนบันไดเขาไหว้พระ ขึ้นไปบนเขาบนความสูงบันได 199 ขั้น เมื่อการใส่บาตรเสร็จสิ้นก็เริ่มทำการหล่อเทียน จำนวน 9 ต้น (พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป)เพื่อทำเป็นเทียนจำนำพรรษา

          และได้ล่องเรือชม บึงบอระเพ็ด บึงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พื้นที่กว่า 1 แสนไร่ มีนกน้ำนานาชนิด รวมทั้งจระเข้ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร (พบครั้งแรกที่บึงบอระเพ็ด) ปลาเสือตอ และนกเป็ดน้ำอพยพอีกจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่บางส่วนได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด

          จากนั้น สักการะศาลเจ้าแม่หน้าผา ประชาชนนิยมมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ปิดท้ายด้วยเยี่ยมชมและสักการะวัดคีรีวงศ์ วัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองนครสวรรค์ได้แบบ 360 องศา ภายในพระอุโบสถมีภาพวาดพระเจ้าสิบชาติ ภาพพุทธประวัติ ปางแสดงปฐมเทศนาและปางแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ พระพุทธชินสีห์ และพระจุฬามหาเจดีย์อีกด้วย

          นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครสวรรค์ เปิดเผยว่า “สำหรับพื้นที่รับผิดชอบของ ททท.สำนักงานนครสวรรค์ ทั้งจังหวัดนครสวรรค์และพิจิตรนั้น สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปของนักท่องเที่ยวก็จะมีบึงสีไฟ วัดท่าหลวง บึงบอระเพ็ด งานเทศกาลตรุษจีน ที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาในพื้นที่ แต่จากการทำงานของทีมงาน ททท. ได้มีการสำรวจพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 2 จังหวัด พบว่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเป็นจำนวนมากที่นักท่องเที่ยวยังไม่รู้จักมากนัก ซึ่งหากมีการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นให้มากยิ่งขึ้น ก็จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ได้เพิ่มมากขึ้น  การจัดกิจกรรมในครั้งนี้นั้น จึงเน้นเป็นการสร้างการรับรู้ เน้นการประชาสัมพันธ์ ถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ควบคู่กับการทำการตลาด โดยทาง ททท.นครสวรรค์ มองกลุ่มเป้าหมายไว้สองกลุ่มคือกลุ่มนักท่องเที่ยวภาคเหนือ เน้นหนักที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ในครั้งนี้จึงได้เชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนจากจังหวัดเชียงใหม่ รวม 26 คน  และได้เชิญสื่อจากกรุงเทพมหานครมาร่วมสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นสร้างการรับรู้ที่หลากหลาย ทั้งสื่อออนไลน์ และสื่อออฟไลน์ ซึ่งตนหวังว่าจังหวัดนครสวรรค์ และพิจิตรคงได้มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยมาเที่ยวในพื้นที่ ภายใต้คำขวัญที่ว่า “นครสวรรค์พิจิตร สวรรค์ของนักท่องเที่ยวและนักชิม”
สำหรับเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวในพื้นที่นั้น ผู้อำนวยการ ททท.นครสวรรค์ เผยว่า “ในปีที่ผ่านมา จังหวัดนครสวรรค์ มีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 3 พันล้านบาท ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันอยู่ที่ 1,600 บาท  การเข้ามาของ ททท.สำนักงานนครสวรรค์ ซึ่งเป็นสำนักงานตั้งขึ้นใหม่ ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2560 ก็จะเน้นหนักไปในส่วนของการตั้งเป้าการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ในปี 2560 รายได้จากการท่องเที่ยวจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 8 จะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น  3,800 ล้านบาท ส่วนปี 2561 อยู่ในช่วงวางแผนและทำโครงการการประชาสัมพันธ์และการตลาด เบื้องต้นตั้งเป้ารายได้เพิ่มที่ร้อยละ 10 ถ้าหากเป็นไปตามเป้า จะทำให้ปี 2561 รายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดนครสวรรค์จะเพิ่มขึ้นเป็น 4 พันล้านบาท ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย แต่ตนคิดว่าน่าจะทำได้สำเร็จตามเป้าอย่างแน่นอน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น