นกแอร์ เปิดฐานการบินใหม่ เชียงใหม่ – นครราชสีมา
สายการบินนกแอร์ เปิดฐานการบินใหม่เส้นทาง เชียงใหม่ – นครราชสีมา ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
วันนี้ (20 ก.ค. 65) สายการบินนกแอร์ จัดแถลงข่าวเปิดฐานการบินใหม่นกแอร์ เชียงใหม่ – นครราชสีมา ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ นายธีรพล โชติชนาภิบาล ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ สายการบินนกแอร์ และ ดร.เกษมสันต์ วีระกุล กรรมการบริษัทสายการบินนกแอร์ ร่วมการแถลงข่าว
นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า สายการบินนกแอร์ได้เล็งเห็นความสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเชื่อมั่นว่าจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพหลายด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม ฯ ขณะเดียวกันสายการบินนกแอร์ได้ให้ความสำคัญในการผลักดันสนามบินเชียงใหม่ให้เป็นฐานการบินสำคัญของสายการบินนกแอร์ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อตอบโจทย์การเดินทางของพี่น้องประชาชนในพื้นที่และจังหวัดรอบข้างให้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเปิดเส้นทางบินเชียงใหม่ – นครราชสีมา จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเดินทางระหว่างหัวเมืองใหญ่ในภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนทั้งสองภาคได้อย่างดี
ด้าน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ยืนยันถึงความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่ ในการเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว เพื่อเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งยังเป็นการส่งเสริม กระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดนครราชสีมา อันจะนำไปสู่การสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนต่อไป
สำหรับเที่ยวบินเส้นทาง เชียงใหม่ – นครราชสีมา จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม นี้เป็นต้นไป โดยเปิดให้บริการสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบินขาไป จากเชียงใหม่ ไปนครราชสีมา ให้บริการทุกวันจันทร์และวันศุกร์ เวลา 20.45 น. เที่ยวบินขากลับ จาก นครราชสีมา ถึง เชียงใหม่ ให้บริการทุกวันอังคารและวันเสาร์ เวลา 05.30 น. นอกจากนี้สายการบินนกแอร์ยังมีแผนเตรียมเปิดเส้นทางเที่ยวบินเพิ่มเติม เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่ – สุวรรณภูมิ และเส้นทางต่างประเทศ อาทิ เชียงใหม่ – สิงคโปร, เวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน ในอนาคตอันใกล้ด้วย