แล็บประชารัฐ จับมือ สสว. ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แนะนำเทคนิคการยื่นขอจดทะเบียน อย.
แล็บประชารัฐ จับมือ สสว. ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แนะนำเทคนิคการยื่นขอจดทะเบียน อย. แก่เอสเอ็มอี กลุ่มอาหาร-เกษตรแปรรูป ก้าวสู่มาตรฐานยุค 4.0
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 เวลา 08.30 น. ณ ห้องเชียงใหม่ ชั้น2 โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเกียรติจากนายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานเปิดงาน โดยมีนายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ประธานกรรมการบริษัทห้องปฎิบัติการกลาง(ประเทศไทย)จำกัด กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน บริษัทห้องปฎิบัติการกลาง(ประเทศไทย) จำกัด หรือ แล็บประชารัฐ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) จัดงานอบรมยกระดับมาตรฐานสินค้า “เลข อย.อาหาร ของ่ายได้ไว” เพื่อแนะนำเทคนิคการยื่นขอจดทะเบียนกับ อย. แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนกว่า 1,000 ราย ใน 6 จังหวัด 6 ภูมิภาค โดยในวันที่ 31 ส.ค 60 ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบปะผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจอาหารและเกษตรแปรรูป ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพของจังหวัด เพื่อมีโอกาสได้เลข อย.เร็วขึ้น ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สสว. เปิดเผยว่า สสว. เดินหน้ายกระดับมาตรฐานเอสเอ็มอีไทยอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เอสเอ็มอี เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยได้จัดสรรงบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้ามารับบริการตรวจวิเคราะห์มาตรฐานผลิตภัณฑ์ฟรีจากแล็บประชารัฐ ผ่านโครงการคูปองมูลค่า 5,000 บาท ระยะที่ 2 จำนวน 6,000 ใบ รวมถึงยังจัดสรรงบประมาณอีกส่วนหนึ่งเพื่อดำเนินการจัดอบรมในครั้งนี้ ให้ผู้ประกอบการนำความรู้ที่ได้รับไปยื่นขอจดทะเบียนกับ อย. ซึ่งนอกจากจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาว และเมื่อต้นปี 2560 สสว. ได้ดำเนินโครงการในลักษณะเดียวกันนี้ ร่วมกับ อย. และแล็บประชารัฐ ที่จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม ราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียง มี SME เข้าร่วมโครงการ 1,316 ราย สามารถจดทะเบียน อย.ได้แล้ว 43 ราย ซึ่งการทำโครงการลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยยกระดับ SME ขนาดย่อม และ Micro SME ให้เป็น SME 4.0 ได้อย่าเป็นรูปธรรม
นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการ แล็บประชารัฐ เปิดเผยว่า นโยบายของนาย อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะให้แล็บประชารัฐจัดตั้งศูนย์รับตัวอย่างสินค้าที่นำมาตรวจวิเคราะห์มาตรฐานขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สะท้อนว่าสินค้าเอสเอ็มอีของจังหวัดมีศักยภาพที่จะขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องการรับรองมาตรฐานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค ดังนั้นหากผู้ประกอบการเข้าร่วมงานอบรมครั้งนี้ก็จะช่วยลดข้อจำกัดดังกล่าวลงไปได้
โดยภายในงานยังมีคลินิกให้คำปรึกษเชิงลึกรายบุคคล และบริการยื่นขอสินเชื่อครบวงจรจากสถาบันการเงินมาเปิดบูธด้วย “แล็บประชารัฐออกแพ็คเกจการตรวจวิเคราะห์ 4 แบบ ให้ผู้ประกอบการได้เลือกใช้คูปองตามความเหมาะสม ได้แก่ การตรวจสารพิษตกค้าง การตรวจผลิตภัณฑ์ตามข้อกำหนดของหน่วยงานรัฐ การตรวจวิเคราะห์ฉลากโภชนาการ และการตรวจประเมินสถานประกอบการ หากสินค้าผ่านมาตรฐานผู้ประกอบการจะได้รับผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างและประกาศนียบัตรรับรอง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า โดยสามารถใช้คูปองได้จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ประเมินว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 3,500 ราย มูลค่าธุรกิจรวมกันประมาณ 1 หมื่นล้านบาท” นายสุรชัยกล่าว
พร้อมกันนั้นภายในงานยังมีบรรยายพิเศษ หัวข้อ “เจาะลึก กลยุทธ์พิชิต GMP” โดย นักวิชาการอาหารและยาชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(สำนักอาหาร) บรรยายพิเศษ “ถอดรหัส ทางลัด เลขอย.” และ “รวยปัง ดังเปรี้ยง ด้วยฉลากสินค้า” พร้อมกิจกรรมให้คำปรึกษา โดยผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยร่วมที่เกี่ยวข้อง(การยื่นขอ อย./การยื่นขอสินเชื่อ/การออกแบบฉลากโภชนาการ)